เมื่อถึงฤกษ์หมั้นที่ซินแสให้มา ก็ถึงเวลาที่ขบวนขันหมากอันเปี่ยมสุขของฝ่ายชายจะเคลื่อนขบวนมายังบ้านเจ้าสาวครับ วันนี้คือวันที่สองครอบครัวจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเป็นทางการ ผ่านพิธีการแลกเปลี่ยนของมงคลที่แสนอบอุ่น
ขบวนขันหมากมาแล้ว!
เจ้าบ่าวจะนำทีมโดยผู้ใหญ่ฝ่ายชายและแม่สื่อ (ถ้ามี) จัดขบวนขันหมากที่เตรียมไว้ทั้งหมดมาที่บ้านเจ้าสาว บรรยากาศจะเต็มไปด้วยความสุขและความยินดี หากมีพิธีสวมแหวนหมั้น ก็จะทำกันต่อหน้าผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นสักขีพยาน
เคล็ดมงคลแห่ง “การแบ่งปัน”
เมื่อเสร็จสิ้นพิธีมอบสินสอดและสวมแหวนแล้ว ขั้นตอนที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความหมายคือ “การแบ่งของขันหมาก” ครับ โดยทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะแบ่งของกันคนละครึ่ง
- ของที่แบ่งกัน: เช่น ขาหมู 2 ขา ก็แบ่งกันไปคนละ 1 ขา, อ้อยคนละต้น, ลำไยและเผือกคนละครึ่ง, ไข่ต้มก็แบ่งกัน
- ชุดหัวใจหมู: สามารถแบ่งกันคนละครึ่ง หรือจะนำไปประกอบอาหารให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวรับประทานร่วมกันก็ได้ เพื่อเป็นเคล็ดให้ทั้งคู่มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
- ขนมแต่งงาน: จะถูกแบ่งกันและนำไปแจกจ่ายให้แขกและญาติมิตร เพื่อเป็นการประกาศให้ทุกคนทราบว่าลูกสาวบ้านนี้ได้ออกเรือนแล้ว
ของที่ฝ่ายชายต้องนำกลับไปทั้งหมด
มีของบางอย่างที่เป็นเคล็ดสำคัญ ซึ่งฝ่ายชายจะต้องเป็นผู้รับกลับไปทั้งหมด ได้แก่:
- กล้วยทั้งเครือ: ฝ่ายชายต้องนำกลับไป เพื่อเป็นเคล็ดในการนำลูกหลานและวงศ์วานว่านเครือกลับไปสู่ตระกูล
- ถาดส้มเช้งของฝ่ายหญิง: ฝ่ายชายก็ต้องยกกลับไปด้วยเช่นกัน
- เอี๊ยมแดง: ที่ฝ่ายหญิงเตรียมไว้ ฝ่ายชายจะนำกลับไปก่อน และจะนำเฉพาะ “ปิ่นทองยู่อี่” กลับมาคืนให้เจ้าสาวอีกครั้งในวันส่งตัว เพื่อให้เจ้าสาวใช้ติดผมก่อนออกจากบ้าน เป็นสิริมงคล
พิธีหมั้นแบบจีนจึงไม่ใช่แค่การมอบของให้กัน แต่คือการ “แลกเปลี่ยน” คำอวยพรและความปรารถนาดีซึ่งกันและกันอย่างแท้จริงครับ
NEXT UP: พิธีหมั้นอันชื่นมื่นได้ผ่านพ้นไป เป็นดั่งคำมั่นสัญญาว่าสองครอบครัวได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว และในที่สุดก็มาถึงวันสำคัญที่สุดที่ทุกคนรอคอย นั่นคือวันส่งตัวและพิธีแต่งงาน ในบทความหน้า เราจะพาไปติดตามการเดินทางของเจ้าสาวสู่บ้านหลังใหม่ พร้อมเจาะลึกหัวใจสำคัญของงานอย่าง ‘พิธียกน้ำชา’ ครับ